ยุคนี้ใคร ๆ ก็อยาก ทำคลิปลง YouTube เพื่อสร้างรายได้ใช่มั้ย? แต่จะมีช่องทางไหนบ้างที่ช่วยให้เราหารายได้จากการทำคลิปในปี 2024? บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการทำเงินผ่านการ ทำคลิปลง YouTube แบบละเอียดกันเลย!
YouTube Partner Program (YPP)
การเข้าร่วม YouTube Partner Program หรือ YPP เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการ ทำคลิปลง YouTube เพื่อสร้างรายได้ ในปี 2024 ข้อกำหนดในการเข้าร่วม YPP คือคุณต้องมีผู้ติดตามอย่างน้อย 1,000 คน และมีเวลาชมรวมกว่า 4,000 ชั่วโมงในปีที่ผ่านมา เมื่อคุณได้รับการยืนยันแล้ว คุณสามารถเริ่มรับรายได้จากโฆษณาที่แสดงบนคลิปของคุณ
- รายได้จากโฆษณาจะขึ้นอยู่กับ CPM (Cost Per Mille) ซึ่งในปัจจุบันค่า CPM ทั่วโลกอยู่ระหว่าง $0.25 ถึง $4 ต่อ 1,000 วิว ขึ้นอยู่กับประเภทของเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมาย
- รายได้จากโฆษณาจะถูกแบ่งกับ YouTube ในอัตราส่วน 55% สำหรับครีเอเตอร์ และ 45% สำหรับ YouTube
Super Chat และ Super Stickers
ฟีเจอร์ Super Chat และ Super Stickers เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ให้ผู้ชมสามารถสนับสนุนคุณโดยตรงในขณะที่คุณทำการสตรีมมิ่งสด ผู้ชมสามารถซื้อ Super Chat หรือ Super Stickers เพื่อให้ข้อความของพวกเขาโดดเด่นในแชท นี่เป็นวิธีที่สนุกและง่ายในการเพิ่มรายได้จากการ ทำคลิปลง YouTube
- รายได้จาก Super Chat และ Super Stickers จะถูกแบ่งกับ YouTube ในอัตราส่วน 70% สำหรับครีเอเตอร์ และ 30% สำหรับ YouTube
- ราคาของ Super Chat อยู่ระหว่าง $1 ถึง $500 และสามารถแสดงข้อความได้ยาวนานตั้งแต่ 1 นาทีถึง 5 ชั่วโมง
YouTube Premium Revenue
หากมีผู้ชมที่สมัครสมาชิก YouTube Premium รับชมคลิปของคุณ คุณจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการสมัครสมาชิกนั้น ๆ นี่เป็นช่องทางที่หลายคนอาจจะมองข้าม แต่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาโฆษณา
- รายได้จาก YouTube Premium จะถูกแบ่งตามเวลาที่ผู้ชม Premium ดูคลิปของคุณ
- ครีเอเตอร์จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ในอัตราส่วน 55% จากรายได้ YouTube Premium
Channel Memberships
ในปี 2024 การเปิดรับสมาชิกช่อง (Channel Memberships) ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการ ทำคลิปลง YouTube ให้ได้เงิน คุณสามารถเสนอบริการพิเศษหรือเนื้อหาพิเศษให้กับสมาชิกที่จ่ายเงินรายเดือน เช่น วิดีโอพิเศษ แชทสดเฉพาะสมาชิก หรือไอคอนพิเศษในแชท
- ราคาสมาชิกช่องสามารถตั้งแต่ $0.99 ถึง $100 ต่อเดือน
- รายได้จากสมาชิกช่องจะถูกแบ่งกับ YouTube ในอัตราส่วน 70% สำหรับครีเอเตอร์ และ 30% สำหรับ YouTube
Merchandise Shelf
Merchandise Shelf เป็นฟีเจอร์ที่ให้คุณสามารถขายสินค้าของคุณโดยตรงผ่านช่อง YouTube ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด หมวก หรือของที่ระลึกต่าง ๆ การขายสินค้าผ่าน Merchandise Shelf ช่วยเสริมรายได้จากการ ทำคลิปลง YouTube และยังช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ของคุณอีกด้วย
- ครีเอเตอร์จะได้รับรายได้ทั้งหมดจากการขายสินค้า แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม (เช่น Teespring, Merchbar) ที่เชื่อมต่อกับ YouTube
- การใช้ Merchandise Shelf ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถโปรโมทสินค้าผ่านวิดีโอได้อย่างตรงจุด
YouTube Shorts Fund
ในปี 2024 การ ทำคลิปลง YouTube ในรูปแบบสั้น ๆ หรือ YouTube Shorts ยังเป็นที่นิยมมาก และ YouTube ได้จัดตั้ง YouTube Shorts Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่จ่ายเงินให้กับครีเอเตอร์ที่สร้างคลิปสั้น ๆ ที่มีคุณภาพและได้รับความนิยม โดยไม่ต้องสมัครเข้าร่วม
- กองทุน YouTube Shorts มีมูลค่ากว่า $100 ล้าน ซึ่งจะแบ่งจ่ายให้กับครีเอเตอร์ทั่วโลก
- รายได้จาก YouTube Shorts Fund จะถูกจ่ายตามความนิยมและคุณภาพของคลิปสั้น ๆ ที่ครีเอเตอร์สร้างขึ้น
Affiliate Marketing
การทำ Affiliate Marketing เป็นการโปรโมทสินค้าหรือบริการของแบรนด์ต่าง ๆ ผ่านคลิปของคุณ เมื่อผู้ชมคลิกผ่านลิงก์ของคุณและทำการซื้อสินค้า คุณจะได้รับค่าคอมมิชชั่น นี่เป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการ ทำคลิปลง YouTube
- ค่าคอมมิชชั่นจาก Affiliate Marketing อยู่ระหว่าง 5% ถึง 50% ขึ้นอยู่กับสินค้าและบริการที่โปรโมท
- โปรแกรม Affiliate ยอดนิยม เช่น Amazon Associates, ShareASale, และ CJ Affiliate
Sponsored Content
การทำสปอนเซอร์คอนเทนต์หรือคลิปที่ได้รับการสนับสนุนเป็นวิธีที่หลายครีเอเตอร์ใช้ในการเพิ่มรายได้ บริษัทหรือแบรนด์ต่าง ๆ จะจ่ายเงินให้คุณเพื่อโปรโมทสินค้าหรือบริการของพวกเขาในคลิปของคุณ การสร้างสปอนเซอร์คอนเทนต์ที่น่าสนใจและตรงกับผู้ชมของคุณจะช่วยให้คุณสร้างรายได้จากการ ทำคลิปลง YouTube
- รายได้จาก Sponsored Content ขึ้นอยู่กับข้อตกลงกับบริษัทหรือแบรนด์ ซึ่งอาจเริ่มต้นที่ $100 ต่อคลิปและสามารถสูงถึง $10,000 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความนิยมและความสามารถในการเข้าถึงของช่องของคุณ
- การทำ Sponsored Content ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลตามนโยบายของ YouTube เพื่อความโปร่งใส
Crowdfunding
การใช้แพลตฟอร์มระดมทุนเช่น Patreon หรือ Ko-fi เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ครีเอเตอร์สามารถหารายได้จากการ ทำคลิปลง YouTube ผู้ชมสามารถสนับสนุนคุณด้วยการบริจาคเงินรายเดือนหรือรายครั้ง เพื่อแลกกับการเข้าถึงเนื้อหาพิเศษหรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ
- Patreon มีอัตราการแบ่งรายได้ที่แตกต่างกัน เช่น 5% สำหรับแผน Lite, 8% สำหรับแผน Pro และ 12% สำหรับแผน Premium
- Ko-fi อนุญาตให้ครีเอเตอร์รับบริจาคโดยไม่หักค่าธรรมเนียม และสามารถขายสินค้าและบริการเสริมผ่านแพลตฟอร์ม
Licensing Your Content
คุณสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการ ทำคลิปลง YouTube โดยการให้สิทธิ์ใช้งานคลิปของคุณแก่บริษัทหรือแพลตฟอร์มที่ต้องการใช้คลิปของคุณในโฆษณา หรือเนื้อหาอื่น ๆ การให้สิทธิ์ใช้งานคลิปช่วยให้คุณมีรายได้เสริมจากเนื้อหาที่คุณได้สร้างขึ้น
- ค่าลิขสิทธิ์สำหรับการใช้งานคลิปวีดีโอสามารถเริ่มต้นที่ $50 และสูงถึง $1,000 ขึ้นอยู่กับคุณภาพและการใช้งานของคลิป
- แพลตฟอร์มที่นิยมในการให้สิทธิ์ใช้งานคลิปเช่น Jukin Media, Storyful และ ViralHog