ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นในโลกของการ ตัดต่อวิดีโอ การเข้าใจศัพท์เฉพาะเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 20 ศัพท์ที่เกี่ยวกับการ ตัดต่อวิดีโอ ที่จะทำให้คุณดูโปรและเก่งขึ้นในสายตาคนอื่น!
1. Timeline
Timeline เป็นพื้นที่ในการจัดเรียงและตัดต่อคลิปวิดีโอ ภาพ และเสียงในโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ คุณสามารถลากและวางคลิปต่าง ๆ บน Timeline เพื่อกำหนดลำดับการเล่น การใช้งาน Timeline เป็นพื้นฐานของการตัดต่อ คุณต้องเข้าใจการวางคลิปในลำดับที่ถูกต้อง การตัดและการเชื่อมต่อคลิปเพื่อให้ได้วิดีโอที่ราบรื่น
2. Cut
Cut หมายถึงการตัดคลิปวิดีโอหรือเสียงออกจากส่วนที่ไม่ต้องการ เป็นการแบ่งคลิปให้สั้นลงเพื่อให้ได้ส่วนที่ต้องการ การทำ Cut ที่แม่นยำเป็นสิ่งสำคัญในการตัดต่อเพื่อให้วิดีโอไม่มีช่วงที่ไม่ต้องการ เช่น การพูดผิดพลาดหรือการหยุดนิ่ง
3. Transition
Transition เป็นการเปลี่ยนผ่านระหว่างคลิปสองคลิป สามารถใช้เพื่อทำให้การตัดต่อดูราบรื่นและมีความสวยงาม เช่น การเฟดเข้า/ออก หรือการเปลี่ยนผ่านแบบวูบ เทคนิคการเลือก Transition ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอของคุณ
4. Keyframe
Keyframe เป็นจุดที่กำหนดค่าต่าง ๆ เช่น ตำแหน่ง ความโปร่งใส หรือการหมุนในช่วงเวลาหนึ่งในคลิปวิดีโอ การใช้ Keyframe ทำให้สามารถสร้างการเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายได้ คุณสามารถตั้งค่า Keyframe ที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดเพื่อกำหนดการเปลี่ยนแปลงของวัตถุในคลิป
5. Render
Render หมายถึงกระบวนการที่โปรแกรมตัดต่อวิดีโอสร้างวิดีโอขั้นสุดท้ายจากการตัดต่อและการปรับแต่งต่าง ๆ เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนการเผยแพร่วิดีโอ การ Render ที่มีคุณภาพจะทำให้วิดีโอของคุณดูคมชัดและลื่นไหล
6. Codec
Codec เป็นโปรแกรมหรืออัลกอริธึมที่ใช้ในการบีบอัดและถอดรหัสข้อมูลวิดีโอและเสียง มีหลายชนิดเช่น H.264, ProRes และ HEVC การเลือก Codec ที่เหมาะสมจะช่วยให้วิดีโอมีคุณภาพสูงและขนาดไฟล์ไม่ใหญ่เกินไป
7. Aspect Ratio
Aspect Ratio หมายถึงอัตราส่วนระหว่างความกว้างและความสูงของเฟรมวิดีโอ เช่น 16:9, 4:3 หรือ 1:1 เป็นการกำหนดรูปร่างและขนาดของวิดีโอ การเลือก Aspect Ratio ที่เหมาะสมจะทำให้วิดีโอของคุณดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับแพลตฟอร์มที่ใช้
8. B-Roll
B-Roll เป็นฟุตเทจเพิ่มเติมที่ใช้เสริมเรื่องราวในวิดีโอหลัก เช่น ภาพทิวทัศน์ ภาพกิจกรรม หรือภาพสินค้า เพื่อเพิ่มความหลากหลายและความน่าสนใจ การใช้ B-Roll ที่มีคุณภาพจะทำให้วิดีโอของคุณมีมิติมากขึ้น
9. LUT (Look-Up Table)
LUT เป็นตารางค่าที่ใช้ในการแก้ไขสีวิดีโอ สามารถใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงโทนสีและแสงของวิดีโอให้เป็นไปตามสไตล์ที่ต้องการ การใช้ LUT ช่วยให้คุณปรับสีของวิดีโอได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องปรับค่าต่าง ๆ เอง
10. Chroma Key
Chroma Key เป็นเทคนิคในการถ่ายทำโดยใช้พื้นหลังสีเขียวหรือสีน้ำเงินเพื่อให้สามารถตัดพื้นหลังออกและใส่ภาพหรือวิดีโออื่นเข้ามาแทนที่ได้ เช่น การทำงานกับ Green Screen การใช้ Chroma Key ที่มีคุณภาพจะทำให้การแทนที่พื้นหลังดูสมจริง
11. Timeline Scrubbing
Timeline Scrubbing หมายถึงการเลื่อนเคอร์เซอร์บน Timeline เพื่อดูตัวอย่างวิดีโอหรือเสียงในช่วงเวลาต่าง ๆ โดยไม่ต้องเล่นวิดีโอเต็มความยาว การ Scrubbing ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบการตัดต่อได้รวดเร็ว
12. Jump Cut
Jump Cut เป็นการตัดต่อวิดีโอที่กระโดดข้ามช่วงเวลาหนึ่งไปยังช่วงเวลาถัดไปในทันที โดยไม่ใช้ Transition ทำให้การตัดต่อดูรวดเร็วและกระชับ การใช้ Jump Cut อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้วิดีโอดูน่าสนใจและไม่ยืดยาว
13. Split Edit
Split Edit หมายถึงการตัดต่อวิดีโอที่มีการเริ่มต้นหรือสิ้นสุดของเสียงหรือภาพในเวลาที่ต่างกัน เช่น J-Cut หรือ L-Cut การใช้ Split Edit ช่วยให้การเปลี่ยนแปลงระหว่างฉากดูราบรื่นและเป็นธรรมชาติ
14. Ripple Edit
Ripple Edit เป็นการตัดต่อวิดีโอที่เมื่อคุณตัดหรือเพิ่มคลิปใน Timeline ส่วนที่เหลือจะเลื่อนตามเพื่อปรับความยาวให้ตรงกับการเปลี่ยนแปลง การใช้ Ripple Edit ช่วยลดเวลาการปรับแต่ง Timeline ทำให้การตัดต่อเร็วขึ้น
15. Nesting
Nesting หมายถึงการรวมคลิปหลายคลิปเข้าด้วยกันเป็นคลิปเดียวใน Timeline เพื่อให้การจัดการและการแก้ไขคลิปง่ายขึ้น การใช้ Nesting ช่วยให้คุณสามารถแก้ไขหลายคลิปพร้อมกันได้โดยไม่ต้องแยกการทำงาน
16. Resolution
Resolution หมายถึงจำนวนพิกเซลที่ใช้แสดงผลวิดีโอ มีหน่วยวัดเป็นพิกเซล เช่น 1920×1080 (Full HD) หรือ 3840×2160 (4K) การเลือก Resolution ที่เหมาะสมจะทำให้วิดีโอของคุณดูคมชัดและไม่เบลอ
17. Frame Rate
Frame Rate หมายถึงจำนวนเฟรมที่แสดงต่อวินาทีในวิดีโอ มีหน่วยวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS) เช่น 24 FPS, 30 FPS หรือ 60 FPS การเลือก Frame Rate ที่เหมาะสมจะทำให้การเคลื่อนไหวในวิดีโอดูลื่นไหลและสมจริง
18. Slow Motion
Slow Motion เป็นการทำให้การเคลื่อนไหวในวิดีโอดูช้าลง โดยการเพิ่มจำนวนเฟรมต่อวินาทีในช่วงเวลาหนึ่ง การทำ Slow Motion ช่วยเน้นรายละเอียดที่สำคัญและสร้างความรู้สึกที่ต่างออกไปจากการเคลื่อนไหวปกติ
19. Timecode
Timecode เป็นตัวเลขที่แสดงเวลาที่แน่นอนในวิดีโอ ใช้เพื่อกำหนดตำแหน่งที่แน่นอนในการตัดต่อและการแก้ไข การใช้ Timecode ช่วยให้การตัดต่อมีความแม่นยำและสามารถกำหนดช่วงเวลาที่ต้องการได้ง่าย
20. Color Grading
Color Grading เป็นการปรับแต่งสีและแสงของวิดีโอเพื่อให้ได้ลุคและอารมณ์ที่ต้องการ เช่น การทำให้ภาพดูอุ่นขึ้นหรือเย็นลง การทำ Color Grading ที่ดีจะทำให้วิดีโอของคุณดูเป็นมืออาชีพและมีคุณภาพสูง
21. Clip
Clip หมายถึงส่วนย่อยของวิดีโอหรือเสียงที่ถูกตัดหรือแยกออกมาจากวิดีโอต้นฉบับ การใช้งาน Clip จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับส่วนต่าง ๆ ของวิดีโอได้ง่ายขึ้น
22. Sequence
Sequence เป็นชุดของคลิปวิดีโอและเสียงที่ถูกจัดเรียงบน Timeline เพื่อสร้างวิดีโอทั้งหมด การใช้งาน Sequence ช่วยให้คุณสามารถจัดการกับหลายคลิปได้ในคราวเดียว
23. Frame
Frame หมายถึงภาพนิ่งหนึ่งภาพในวิดีโอ ซึ่งเมื่อรวมกันหลาย ๆ Frame จะกลายเป็นวิดีโอ การทำงานกับ Frame อย่างละเอียดช่วยให้การตัดต่อมีความแม่นยำและลื่นไหล
24. In Point และ Out Point
In Point และ Out Point คือจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของคลิปที่คุณต้องการใช้งานในการตัดต่อ การตั้งค่า In Point และ Out Point ช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้เฉพาะส่วนที่ต้องการของคลิปได้อย่างง่ายดาย
25. Overlay
Overlay คือการวางภาพหรือวิดีโออีกชุดหนึ่งทับบนคลิปหลัก เช่น การใส่โลโก้หรือข้อความบนวิดีโอ การใช้ Overlay ทำให้วิดีโอมีความซับซ้อนและน่าสนใจมากขึ้น
26. Lower Thirds
Lower Thirds เป็นการแสดงข้อความที่ด้านล่างของหน้าจอวิดีโอ มักใช้สำหรับการแนะนำบุคคลหรือแสดงข้อมูลเพิ่มเติม การใช้ Lower Thirds ช่วยให้วิดีโอดูน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ
27. Motion Tracking
Motion Tracking คือการติดตามการเคลื่อนไหวของวัตถุในวิดีโอและใส่เอฟเฟกต์หรือข้อความตามการเคลื่อนไหวนั้น การใช้ Motion Tracking ช่วยให้การเพิ่มเอฟเฟกต์ดูเป็นธรรมชาติและสมจริง
28. Compositing
Compositing คือการรวมภาพหรือวิดีโอหลาย ๆ ชิ้นเข้าด้วยกันเพื่อสร้างภาพใหม่ เช่น การใช้ Green Screen เพื่อเพิ่มฉากหลังที่ต้องการ การทำ Compositing ช่วยให้การสร้างสรรค์วิดีโอมีความหลากหลายและเป็นมืออาชีพ
29. Aspect Ratio Conversion
Aspect Ratio Conversion คือการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนของเฟรมวิดีโอ เช่น จาก 4:3 เป็น 16:9 การทำ Aspect Ratio Conversion ช่วยให้วิดีโอเหมาะสมกับแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน
30. Speed Ramp
Speed Ramp คือการเปลี่ยนความเร็วของการเล่นวิดีโอในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น การเร่งความเร็วหรือการทำ Slow Motion ในบางช่วง การใช้ Speed Ramp ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดผู้ชม
31. Audio Sync
Audio Sync คือการปรับเสียงให้ตรงกับภาพในวิดีโอ เช่น การปรับเสียงพูดให้ตรงกับการขยับปาก การทำ Audio Sync อย่างแม่นยำช่วยให้วิดีโอดูเป็นธรรมชาติและไม่ขัดใจผู้ชม
32. Dissolve
Dissolve คือการเปลี่ยนผ่านแบบราบรื่นระหว่างสองคลิป โดยการทำให้ภาพคลิปแรกจางลงและภาพคลิปที่สองเข้ามาแทนที่ การใช้ Dissolve ช่วยให้การเปลี่ยนฉากดูนุ่มนวลและไม่กระตุก
33. Multi-Cam Editing
Multi-Cam Editing คือการตัดต่อวิดีโอจากกล้องหลายตัวพร้อมกัน เช่น การถ่ายทำคอนเสิร์ตหรือการสัมภาษณ์ การใช้ Multi-Cam Editing ช่วยให้การตัดต่อหลายมุมมองเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
34. Dynamic Link
Dynamic Link คือการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกันระหว่างโปรแกรมตัดต่อวิดีโอกับโปรแกรมอื่น ๆ ในตระกูล Adobe เช่น After Effects หรือ Photoshop การใช้ Dynamic Link ช่วยให้การแก้ไขและการทำงานร่วมกันระหว่างโปรแกรมเป็นไปอย่างราบรื่น
35. Audio Ducking
Audio Ducking คือการปรับลดระดับเสียงพื้นหลังลงเมื่อมีเสียงพูดหรือเสียงที่สำคัญ การใช้ Audio Ducking ช่วยให้เสียงที่สำคัญได้ยินชัดเจนและไม่ถูกเสียงพื้นหลังกลบ
36. Masking
Masking คือการซ่อนหรือแสดงบางส่วนของคลิปวิดีโอหรือภาพ การใช้ Masking ช่วยให้คุณสามารถสร้างเอฟเฟกต์ที่ซับซ้อนและน่าสนใจได้ เช่น การซ่อนส่วนที่ไม่ต้องการหรือการทำเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหว
37. Warp Stabilizer
Warp Stabilizer เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยลดการสั่นของวิดีโอที่ถ่ายทำมาให้ดูนิ่งและราบรื่น การใช้ Warp Stabilizer ช่วยปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอที่สั่นไหวและทำให้ดูเป็นมืออาชีพ
38. Nest
Nest คือการรวมหลายคลิปเข้าด้วยกันในหนึ่งคลิปเดียวใน Timeline เพื่อให้การจัดการและการแก้ไขง่ายขึ้น การใช้ Nest ช่วยลดความซับซ้อนของ Timeline และทำให้การตัดต่อสะดวกขึ้น
39. Proxy
Proxy คือไฟล์วิดีโอที่มีขนาดเล็กและคุณภาพต่ำที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในขั้นตอนการตัดต่อเพื่อลดการโหลดของระบบ การใช้ Proxy ช่วยให้การตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูงไม่กระตุกและเร็วขึ้น
40. Export Preset
Export Preset คือการตั้งค่าการส่งออกวิดีโอที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น การตั้งค่าสำหรับ YouTube หรือ Facebook การใช้ Export Preset ช่วยลดเวลาในการตั้งค่าการส่งออกและทำให้ได้คุณภาพวิดีโอที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม
41. VFX (Visual Effects)
VFX คือการเพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษให้กับวิดีโอ เช่น การระเบิด การทำลาย หรือการเพิ่มวัตถุที่ไม่มีจริง การใช้ VFX ช่วยให้วิดีโอดูน่าสนใจและเป็นมืออาชีพ
42. Color Correction
Color Correction คือการปรับสีและแสงของวิดีโอให้ถูกต้องและสมดุล การทำ Color Correction ช่วยให้วิดีโอดูเป็นธรรมชาติและมีคุณภาพสูง
43. Frame Blending
Frame Blending คือการรวมภาพจากหลายเฟรมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างการเคลื่อนไหวที่ราบรื่น การใช้ Frame Blending ช่วยลดการกระตุกของการเคลื่อนไหวในวิดีโอ
44. Motion Blur
Motion Blur คือการทำให้การเคลื่อนไหวในวิดีโอดูเบลอเพื่อเพิ่มความสมจริง การใช้ Motion Blur ช่วยให้การเคลื่อนไหวดูนุ่มนวลและไม่กระตุก
45. Time Remapping
Time Remapping คือการปรับเปลี่ยนความเร็วของการเล่นวิดีโอในช่วงเวลาต่าง ๆ เช่น การทำ Slow Motion หรือการเร่งความเร็ว การใช้ Time Remapping ช่วยให้วิดีโอมีความหลากหลายและน่าสนใจ
46. Audio Waveform
Audio Waveform คือการแสดงกราฟิกของสัญญาณเสียงบน Timeline การใช้ Audio Waveform ช่วยให้คุณสามารถเห็นและปรับแต่งเสียงในวิดีโอได้อย่างแม่นยำ
47. Adjustment Layer
Adjustment Layer คือการสร้างเลเยอร์ที่สามารถใส่เอฟเฟกต์หรือการปรับแต่งที่ต้องการให้กับหลายคลิปพร้อมกัน การใช้ Adjustment Layer ช่วยให้การปรับแต่งเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวก
48. Multi-Camera Angle
Multi-Camera Angle คือการตัดต่อวิดีโอจากมุมกล้องหลายตัวพร้อมกัน การใช้ Multi-Camera Angle ช่วยให้การตัดต่อหลายมุมมองเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
49. Chromatic Aberration
Chromatic Aberration คือการเบี่ยงเบนของสีในวิดีโอที่เกิดจากการถ่ายภาพหรือการบีบอัด การแก้ไข Chromatic Aberration ช่วยให้วิดีโอดูคมชัดและสมจริง
50. Visual Storytelling
Visual Storytelling คือการใช้ภาพและวิดีโอในการเล่าเรื่องราว การทำ Visual Storytelling ที่ดีจะช่วยให้วิดีโอของคุณดึงดูดผู้ชมและสร้างความประทับใจ
สรุป
การเข้าใจศัพท์เฉพาะในการ ตัดต่อวิดีโอ จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมีประสบการณ์แล้ว การรู้คำศัพท์เหล่านี้จะช่วยให้การตัดต่อวิดีโอเป็นเรื่องง่ายและสนุกยิ่งขึ้น ลองนำความรู้นี้ไปใช้แล้วคุณจะพบว่าการตัดต่อวิดีโอไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!